หลอดไฟ ถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน นอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างยังช่วยให้เรามองเห็นได้ชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น
หลอดไฟ มีต้นกำเนิดมาจากนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการประดิษฐ์สิ่งที่ให้ความสว่างแทนตะเกียงแก๊ส โดยหลอดไฟแบบแรกที่สามารถคิดค้นได้ คือ หลอดไส้ หลังจากนั้นหลอดไส้จึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
แต่ด้วยข้อจำกัดของหลอดไส้ เรื่องระยะเวลาในการใช้งานที่สั้น และหลอดมีความร้อนสูง จึงได้มีการพัฒนาหลอดไฟมาอย่างต่อเนื่อง จนมาเป็นหลอดไฟ LED ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
วันนี้ LeKise พามาทำความรู้จักกับ วิวัฒนาการของหลอดไฟ จากอดีตตั้งแต่ปี 1879 มาจนถึงปัจจุบัน กว่าจะมาเป็นหลอด LED ในทุกวันนี้ มีวิวัฒนาการหลอดแบบใดมาแล้วบ้าง?
ปี 1879 “หลอดไส้” ทำจากทังสเตน ทำให้เกิดความร้อนสูงเพื่อกระตุ้นให้ติดไฟ ยิ่งร้อนมากยิ่งสว่างมาก มีอายุการใช้งานที่สั้นและกินไฟ เราสามารถเห็นได้จากการนำมาใช้ตกแต่งร้านกาแฟ ร้านอาหารเป็นต้น
ปี 1890 “หลอดแสงจันทร์” ปัจจุบันไม่นิยมใช้ เนื่องจากยากต่อการดูเเลรักษา และมีส่วนผสมของปรอท เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ปี 1892 “หลอดเมทัลฮาไลน์” ให้แสงสว่างหลอดแสงจันทร์เกือบเท่าตัว มีความสมดุลของแสง ใกล้เคียงกับแสงแดด เเต่มีอายุการใช้งานสั้น
ปี 1926 หลอดฟลูออเรสเซนต์ มีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานสูงกว่าหลอดไส้ นอกจากนี้ยังมีความร้อนที่ต่ำกว่า แต่ต้องใช้ร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์
ปี 1955 หลอดฮาโลเจน ให้ค่าความถูกต้องของสี 98% นิยมใช้ส่องสว่างเครื่องประดับ หรือตู้โชว์สินค้า
ปี 1976 หลอด CFL ใช้สำหรับแทนหลอดไส้ ช่วยประหยัดไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน กว่าหลอดไส้หลายเท่า
ปี 2000 หลอด LED Bulb A60 Klassic ให้แสงสว่างมากและประหยัดไฟกว่าเดิม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ตัวหลอดไฟระบายความร้อนได้ดี ปราศจากสารปรอท เปิดปุ๊บ ติดปั๊บไม่กระพริบ
ด้วยคุณสมบัติของหลอดไฟ LED ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดพลังงาน
มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ความปลอดภัย เนื่องจากวัสดุถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเเละเเพร่หลายไปทั่วโลก