เช็คจุดเสี่ยง เลี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร

          สาเหตุอันดับต้น ๆ ของเพลิงไหม้ คือ การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเรามักลืมใส่ใจกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ยิ่งเป็นบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ มักจะคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับบ้านของเราแน่นอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา! บทความนี้ เลคิเซ่ จะชวนคุณมาเช็คจุดเสี่ยงภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบเป็นประจำ เพื่อเลี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร รู้ไว้ก่อน จะได้นำไปใช้แก้ปัญหาในบ้านของคุณ เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนในครอบครัวที่คุณรัก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. การต่อสายดิน

          ‘อันตรายถึงชีวิต หากไม่ติดตั้งสายดิน’ หลายคนที่เคยได้ยินประโยคนี้ แต่ไม่ได้สนใจจนละเลยการติดตั้งสายดิน เพราะเห็นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านก็ยังคงสามารถใช้งานได้ปกติแม้ไม่มีการติดตั้งสายดิน แต่รู้หรือไม่? ว่าการต่อสายดิน ถือเป็นการติดตั้งระบบไฟฟ้า ที่สำคัญต่อความปลอดภัยในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพราะหากเกิดไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าจะไหลเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง แต่หากติดตั้งสายดินจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงสู่ดินแทนนั่นเอง โดยสายดินโดยปกติมักจะติดตั้งที่ตู้ควบคุมไฟที่สามารถตัดวงจรได้อัตโนมัติ

ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=1176009782606042&set=pcb.1176009872606033

2. ยังใช้คัตเอาต์ไฟแบบเก่า

          อุปกรณ์ควบคุมไฟ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ควรติดตั้งในระบบไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหากคุณยังคงใช้คัตเอาต์ไฟแบบเก่า จะต้องทำการตัดหรือต่อไฟฟ้าโดยใช้วิธีการยกขึ้น-ลง จึงไม่ตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ควรให้เปลี่ยนมาใช้ตู้ควบคุมไฟที่มีเซอร์กิตเบรกเกอร์ตัดวงจรแบบ RCBO และ MCB รบบตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟเกิน และไฟฟ้าลัดวงจร เบรกเกอร์จะทำการตัดไฟให้อัตโนมัติ เปลี่ยนแล้วรับรองปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3. เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือหลอดไฟที่ชำรุด

          เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ส่องสว่างล้วนมีอายุการใช้งานตามวันเวลา หากใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือหลอดไฟนานเกินไปจนเสื่อมสภาพ ควรหมั่นตรวจสอบความผิดปกติขณะใช้งาน กรณีเครื่องใช้ไฟฟ้าควรหมั่นตรวจสอบ หากมีกลิ่นไหม้ หรือการทำงานผิดปกติ หรือบริเวณสายไฟที่มีการหักงอ ฉนวนฉีกขาด เพราะอาจทำให้ประจุไฟเดินไม่สะดวกแล้วสะสมเป็นความร้อนจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือกระแสไฟรั่วเป็นอันตรายขณะใช้งานได้ หากเป็นหลอดไฟให้สังเกตุว่าแสงไฟมีอาการสั่น กระพริบ หรือมีเสียงดังหึ่ง หึ่ง ขณะเปิดใช้งาน หรือขั้วหลอดเริ่มมีสีดำ ถือเป็นสัญญาณในการเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ได้แล้ว

4.  โคมไฟภายนอกบ้าน

          ถือเป็นจุดที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟสนาม โคมไฟหัวเสา หรือโคมไฟถนน เพราะเป็นโคมไฟที่ต้องต่อสายไฟไว้ภายนอก จึงควรหมั่นตรวจสอบดูแลอยู่เสมอ เพราะต้องโดนทั้งแดดและฝนทำให้สายไฟเสื่อมสภาพ จนทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้โคมไฟภายนอกชนิดโซล่าเซลล์ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสายไฟสู่ภายนอก ทั้งปลอดภัย แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย

5. ใช้งานปลั๊กพ่วงอย่างถูกต้อง

          ก่อนซื้อรางปลั๊กไฟ ขอให้สังเกตว่ารางปลั๊กรองรับการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดกี่วัตต์ และควรเสียบใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้เกินวัตต์ที่รางปลั๊กกำหนดไว้ ไม่ควรใช้รางปลั๊กไฟเสียบต่อกันไปเรื่อย ๆ ควรจะเลือกซื้อความยาวมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน หรือไม่ควรเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ในที่เดียวกันเยอะๆ เพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย 

6. เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานมอก.

          ควรเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือหลอดไฟที่ได้มาตรฐาน มอก. เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือหลอดไฟที่ได้มาตรฐานนี้จะเป็นการการันตีถึงคุณภาพ ความปลอดภัย เนื่องจากได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น แม้อุปกรณ์ไฟฟ้า หลอดไฟที่ได้รับการรับรองจะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับท้องตลาด แต่ถ้าเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือหลอกไฟที่ไม่ได้คุณภาพ มูลค่าที่อาจจะเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอาจจะมีมากกว่า อย่าเห็นแก่อุปกรณ์ไฟฟ้าราคาถูก หรือรางปลั๊กพ่วงธรรมดา ที่ไม่มีระบบความปลอดภัยมาใช้งาน แต่ควรมองหาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จึงจะปลอดภัยที่สุด

สนใจหลอดไฟคุณภาพ เลือกใช้แบรนด์เลคิเซ่ โรงงานผลิตหลอดไฟ อยู่คู่คนไทยมามากกว่า 55 ปี

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตามช่องทาง

Line ID : @lekisegroup หรือ https://page.line.me/lekisegroup

LeKise : รับตัวแทนจำหน่ายและรับผลิตสินค้า OEM

#Lekise #เลคิเซ่ #โรงงานหลอดไฟ #หลอดไฟ #โคมไฟ