สวิตช์และปลั๊กไฟ ควรติดสูงจากพื้นเท่าไหร่ ?
ปัญหาเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่กลับทำให้เจ้าของบ้านหลายคนต้องเสียเวลาและเสียเงินซ่อมแซมในภายหลังดังนั้น การวางแผนระยะความสูงของสวิตช์และปลั๊กไฟตั้งแต่แรกเริ่ม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น ยังช่วยลดปัญหาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว บทความนี้เลคิเซ่จะมาแนะนำมาตรฐานเบื้องต้นสำหรับความสูงในการติดตั้งสวิตช์และปลั๊กไฟ มีดังนี้
1. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งกับพื้น
เครื่องฟอกอากาศ โคมไฟ พัดลม ปลั๊กไฟควรสูงจากพื้นประมาณ 30 ซม. ระยะนี้เหมาะสมสำหรับการเสียบใช้งานได้สะดวกไม่ต้องก้มมากเกินไป และช่วยป้องกันเวลาน้ำท่วม ปลอดภัยจากการกวาดถูทำความสะอาด
2. ปลั๊กไฟสำหรับตู้เย็น
ควรติดตั้งให้สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 1.25 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเล็กเอานิ้วแหย่เข้าไปในรูปลั๊ก ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการโดนไฟช็อต นอกจากนี้ยังช่วยลดการสะดุดสายไฟบริเวณพื้น
3. สวิตช์และปลั๊กไฟบริเวณข้างประตู
สวิตช์และปลั๊กไฟข้างประตูควรอยู่สูงจากพื้นประมาณ 100-130 ซม. ห่างจากขอบประตูประมาณ 10 ซม. ระยะนี้ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกเมื่อเดินเข้า-ออกจากห้อง และยังทำให้ผนังดูเรียบร้อยไม่รกสายตา ส่วนสวิตช์ไฟไม่ควรจัดให้แป้นสวิตช์ปิด-เปิดอยู่รวมกันมากเกินกว่า 4-6 สวิตช์เพื่อป้องกันความสับสน
4. ปลั๊กไฟบริเวณหัวเตียง
ปลั๊กไฟสำหรับพื้นที่นี้ควรสูงจากพื้นประมาณ 50-75 ซม. และห่างจากขอบเตียงประมาณ 10 ซม. เพื่อให้ความสะดวกในการใช้งานสามารถเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ หรือต่อโคมไฟหัวเตียงได้โดยไม่ต้องกังวลว่าสายไฟจะยืดยาวเกินไป
5. ปลั๊กไฟเหนือโต๊ะทำงาน
สำหรับการใช้งานที่โต๊ะทำงาน เช่น การเสียบสายไฟของคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ควรติดตั้งปลั๊กไฟให้สูงจากพื้นประมาณ 85-90 ซม. ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม ช่วยให้จัดการสายไฟได้ง่าย และลดความเสี่ยงจากการเดินสะดุด
นอกจากการคำนึงถึงระยะความสูงติดตั้งสวิตช์และปลั๊กไฟแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกซื้อสวิตช์และปลั๊กไฟซึ่งมีผลต่อความปลอดภัย และการใช้งานภายในบ้านหรือที่ทำงาน
ข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อสวิตช์และปลั๊กไฟ
1. มาตรฐานความปลอดภัย
เป็นสิ่งสำคัญไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อสวิตช์และปลั๊กไฟ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายไฟฟ้าโดยตรง ควรผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผ่านการทดสอบและออกแบบเพื่อใช้งานได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ไฟฟ้า
2. คุณสมบัติไม่ลามไฟ
วัสดุที่ใช้ผลิตสวิตช์และปลั๊กไฟควรมีคุณสมบัติไม่ลามไฟ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ได้ในกรณีที่ไฟฟ้าลัดวงจร หากวัสดุที่ใช้ผลิตสวิตช์และปลั๊กไฟไม่สามารถต้านทานความร้อนได้ดี ก็อาจทำให้เกิดไฟลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการเลือกวัสดุที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันอันตรายจากไฟไหม้
3. ความแข็งแรงและทนทาน
สวิตช์และปลั๊กไฟควรมีความแข็งแรง ทนต่อการเปิด-ปิด หรือเสียบถอดบ่อยครั้ง สามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวโดยไม่เกิดความเสียหายง่าย หรือเสื่อมสภาพเร็ว เช่น การหลุดหรือการร้อนเกินไปจากการใช้งานที่ต่อเนื่อง
4. ม่านนิรภัยป้องกันการสัมผัส
การออกแบบปลั๊กไฟที่ดีควรมีม่านนิรภัย (Safety Shutter) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กหรือบุคคลอื่นที่ไม่ตั้งใจสัมผัสกับขั้วไฟฟ้าโดยตรง เช่น การเสียบปลั๊กไฟในขณะมือเปียกหรือสัมผัสกับปลั๊กในขณะที่อยู่ในสภาพอันตราย ซึ่งการติดม่านนิรภัยจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกไฟฟ้าดูด
5. เลือกซื้อจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ
การเลือกซื้อสวิตช์และปลั๊กไฟจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงในด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น
สวิตช์และปลั๊กไฟของเลคิเซ่
ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน ทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพ โดยสวิตช์และปลั๊กไฟผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอร์เนตคุณภาพสูง มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ปลั๊กไฟยังมีม่านนิรภัยป้องกันการสัมผัสโดยตรง และด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความทนทาน ผ่านการทดสอบการเปิด-ปิดจึงสามารถรองรับการใช้งานในระยะยาว
สนใจสินค้าติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตามช่องทาง
สมัคร My LeKise Rewards รับสิทธิประโยชน์ก่อนใคร
Line ID : @lekisegroup หรือ https://page.line.me/lekisegroup
WhatsApp : LeKise https://wa.me/66954099280
.
เลือกหลอดไฟคุณภาพ ต้องเลือกใช้เลคิเซ่เท่านั้น
เลคิเซ่ โรงงานผลิตหลอดไฟ อยู่คู่คนไทยมามากกว่า 55 ปี
LeKise : รับตัวแทนจำหน่ายและรับผลิตสินค้า OEM